นายสุรัตน์ชัย กึงฮะกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดรับสร้างบ้านหรูในปัจจุบันมีฐานลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่อายุประมาณ 35 ปีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทายาทเจ้าของกิจการรุ่นที่ 2 หรือรุ่นที่ 3 ที่กล้าตัดสินใจมากขึ้น และเลือกสร้างบ้านหลังใหม่ได้เร็วกว่ากลุ่มผู้ใหญ่
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาฐานลูกค้าของบ้านหรูระดับราคาไม่ต่ำกว่า 20-30 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นคนที่อายุเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 55 ปี มีช่วงไม่กี่ปีมานี้ที่ขยับลงมาเป็นกลุ่มอายุ 45 ปีที่เป็นเจ้าของธุรกิจขนาดย่อมมากขึ้น แต่ในปีนี้เห็นชัดเจนเลยว่ามีกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุต่ำกว่า 40 ปีมากขึ้น
สำหรับปัจจัยดังกล่าวทำให้บริษัทเตรียมออกแบบบ้านแนวใหม่ประมาณ 3-4 แบบ ในระดับราคา 30-40 ล้านบาท ซึ่งไม่ใช่แบบบ้านแนวคลาสสิกที่กลุ่มคนอายุ 45-55 ปีขึ้นไปนิยม แต่เป็นแนวหรูในแบบที่คนรุ่นใหม่นิยม ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในการออกแบบบ้านแนวใหม่แตกต่างไปจากเดิม เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่
“คนรุ่นใหม่กลุ่มนี้กว่า 50% เป็นทายาทเจ้าของกิจการธุรกิจที่ไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ มีความชื่นชอบงานศิลปะ จึงให้ความสำคัญกับแบบบ้านแนวคิดใหม่ๆ รูปแบบใหม่ๆ ที่แตกต่างมีความทันสมัยมากขึ้น”นายสุรัตน์ชัย กล่าว
ด้านแนวโน้มตลาดรับสร้างบ้านครึ่งปีหลัง ยังไม่มีสัญญาณเชิงลบที่ชัดเจนมากนัก โดยกำลังซื้อของผู้บริโภคในตลาดนี้ยังมีต่อเนื่องในทุกระดับราคา ส่วนปัญหาด้านแรงงานขาดแคลน ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เตรียมความพร้อมและสามารถปรับตัวได้พอสมควรแล้ว และถือว่าเข้าสู่ภาวะที่คลี่คลายขึ้น ไม่ได้เป็นปัญหารุนแรง
ขณะที่ความคืบหน้าในการทำตลาดรับสร้างบ้านที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวซึ่งบริษัทได้ขยายธุรกิจเข้าไปก่อนหน้านี้ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนจัดตั้งสำนักงาน และจะเริ่มทำตลาดได้ในครึ่งปีหลังของปี 2556 นี้ ซึ่งยอมรับว่าล่าช้ากว่าแผนที่วางไว้ เพราะกระบวนการจัดตั้งบริษัทใช้เวลานานจากการที่บริษัทปรับเพิ่มสัดส่วนการลงทุนเป็น 70% และสัดส่วนนักลงทุนจากกลุ่มทุนลาว 30% โดยปัจจัยดังกล่าวมีผลให้บริษัทได้ปรับลดเป้าหมายยอดรายได้ปีนี้ขยับลงมาอยู่ที่ 360-380 ล้านบาท จากเดิมตั้งเป้าไว้ที่ 440 ล้านบาท
แหล่งข่าวจาก posttoday…